22:00 น. พร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการบินเอมิเรตส์(EK) โดยเจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับพร้อมอํานวยความสะดวกด้านสัมภาระและบัตรที่นั่งขึ้นเครื่อง
01:05 น. ออกเดินทางสู่ กรุงแมดริด (MADRID) ประเทศสเปน โดยสายการบินเอมิเรตส์เที่ยวบินที่ EK375/EK075
*แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินดูไบ
12:40 น. เดินทางถึง กรุงมาดริด (MADRID) ประเทศสเปน เมืองหลวงของประเทศสเปน มหานครอันทันสมัยลํ้ายุค ที่ซึ่งกษัตริย์ฟิลลิปที่ 2 ได้ทรงย้ายที่ประทับจากเมืองโทเลโดมาไว้ที่นี่ และ ประกาศให้แมดดริดขึ้นเป็นเมืองหลวงใหม่ของพระองค์และได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งใน โลก และสูงสุดแห่งหนึ่งในยุโรป
นําท่านชมย่านเมืองเก่าพลาซ่าร์ มายอร์ (PLAZA MAYOR) เป็นจัตุรัสใหญ่ใจกลางเมืองเก่าอดีตใช้ประกอบ พิธีกรรมทางศาสนา เป็นที่ประกอบพิธีราชาภิเษก และงานฉลองพิธีสําคัญ ๆ เป็นที่ประลองฝีมือของบรรดา อัศวิน และเคยเป็นแหล่งสู้รบอย่างดุเดือด ระหว่างทหารของนโปเลียนกับชาวสเปน ปัจจุบันยังคงมี บรรยากาศ และความงามสมัยศตวรรษที่ 17 จากนั้นนําท่านสู่จุดศูนย์กลางของเมือง คือ ปัวร์ต้า เดล โซล (PUERTA DE SOL) หรือจุดกึ่งกลางเมือง กิโลเมตรที่ศูนย์ หรือประตูพระอาทิตย์ซึ่งเชื่อกันว่า หากตั้งจิตอธิษฐานในระหว่างที่เหยียบบนจุดกลางเมืองนี้ จะสมปรารถนาในสิ่งที่หวังไว้ทุกอย่าง / ผ่านชมนํ้าพุที่จัตุรัสซีเบเลส (PLAZA DE LA CIBELES) ชมรูป แกะสลักหินอ่อนเทพธิดาซีเบเลส นั่งบนรถ ซึ่งเทียมด้วยสิงห์โต 2 ตัว ซึ่งแกะสลักด้วยหินอ่อนเช่นกัน ชมสัญลักษณ์ที่สําคัญของกรุงมาดริด คือ รูปปั้น ดอน กิโฆเต วีรบุรุษนักฝันผู้ยิ่งใหญ่ ผู้จุดประกายไฟแห่ง ความหวังใหม่ ในชีวิตที่ดีกว่า ให้แก่มวลมนุษยชาติภายใต้ข้อกล่าวหาว่า เป็นนักอุดมคติลม ๆ แล้ง ๆ จาก วรรณกรรมสเปนชื่อดัง “DON QUIXOTE DE LA MONCHA”
คํ่า รับประทานอาหารคํ่า ณ ภัตตาคาร
ที่พัก PUERTA AMERICA MADRID (5*****) หรือเทียบเท่า
* พักสองคืนไม่ต้องย้ายโรงแรม
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนําท่านเดินทางสู่ เมืองเซโกเบีย (SEGOVIA) (100 กม.) เมืองท่องเที่ยวอีกเมืองหนึ่งของสเปน และ ยังได้รับการขึ้นทะเบียน (UNESCO) ยังได้ขึ้นทะเบียนให้เมืองนี้เป็นเมืองมรดกโลกในปี 1985 … ชมรางส่งนํ้าโรมัน (ACUEDUCTO DE SEGOVIA) ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 1 โดยไม่มีการใช้กาวหรือ วัสดุเชื่อมหิน แต่ละก้อนแต่อย่างใด จึงได้ รับการยกย่องว่าเป็นสิ่งก่อสร้างทางวิศวกรรมโดยชาวโรมันที่ สําคัญที่สุดของสเปน และยังมีสภาพสมบูรณ์ที่สุดอีกด้วย รางส่งนํ้าาประกอบขึ้นจากหินแกรนิตกว่า 25,000 ก้อน มีความยาว 818 เมตร มีโค้ง 170 โค้ง จุดที่สูงที่สุดสูงถึง 29 เมตร
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนําท่านเดินทางสู่ เมืองโทเลโด (TOLEDO) (170 กม.) เมืองประวัติศาสตร์ ซึ่งมีความหมายว่า ”เมือง ป้อมน้อย” ในอดีตเป็นเมืองหลวงเก่าของสเปน และเคยถูกชาวโรมันเข้ายึดครองเมืองเมื่อ 2,200 ปีมาแล้ว ปัจจุบันอารยธรรมของชนต่างชาติครั้งก่อน ยังคงฝังแน่นคละกันอยู่ในชีวิต ประจําวันของชาวเมือง ลักษณะ ผังเมืองโทเลโด เป็นเอกลักษณ์ที่น่าชื่นชมที่สุดของการจัดสร้างเมืองโบราณอันสมบูรณ์แบบ ตัวเมืองรายล้อม ด้วยเนินเขามากมาย ประดุจ กําแพงธรรมชาติด้วยหุบผา 3 แห่งโดยมีแม่นํ้าทาโคเป็นเส้นทางคมนาคม นอกจากนี้ เมืองโทเลโดเป็นใจกลางของประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม ปัจจุบันได้รับรองจากยูเนสโก ประกาศให้เมืองโทเลโดเป็นเมืองมรดกโลก ชมเมืองโทเลโด 0ซึ่งเป็นนครที่คงความงดงามและความเป็นมาในฐานะเมืองเก่าอันเปรียบเป็นอนุสรณ์แห่ง ประวัติศาสตร์นั้นยังคงได้รับการยอมรับและบันทึกเอาไว้โดยองค์การสหประชาชาติว่าเป็น เมืองมรดกโลก0 จากนั้น นําท่านชมภายนอกมหาวิหารแห่งโทเลโด (TOLEDO CATHEDRAL) มหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดใน สเปน สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1227 อันเป็นสมัยที่ศิลปะแบบโกธิค กําลังแพร่หลายอยู่ในยุโรป และเสร็จสิ้น สมบูรณ์เมื่อปีค.ศ. 1493 ถือเป็นมหาวิหารสไตส์โกธิคที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งและเป็นศูนย์กลางแห่งศาสนา คริสต์ในประเทศสเปนอีกด้วย นําท่านเดินลัดเลาะตามตึกรามบ้านช่องเก่าแก่สมัยโรมัน ท่านจะประทับใจกับ ความงดงามและความเก่าแก่ของโทเลโดซึ่งเหมือนกับพิพิธภัณฑ์ทั้งเมือง …จากนั้นเดินทางกลับสู่ กรุง มาดริด (MADRID) (80 กม.)
คํ่า รับประทานอาหารคํ่า ณ ภัตตาคาร
ที่พัก PUERTA AMERICA MADRID (5*****) หรือเทียบเท่า
*พักสองคืนไม่ต้องย้ายโรงแรม
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นําท่าน เข้าชมพระราชวังหลวง (PALACIO REAL) ตั้งอยู่บนเนินเขาบริเวณริมฝั่งแม่นํ้าแมนซานาเรส ที่มี ความงดงามโอ่อ่าอลังการไม่แพ้พระราชวังอื่นในทวีปยุโรป เนื่องจากแนวความคิดเปรียบเทียบความใหญ่โต ของพระราชวังแวร์ซายส์ และความสวยงามของพระราชวังลูฟว์ในฝรั่งเศส พระราชวังหลวงแห่งนี้จึงถูกสร้าง ด้วยหินทั้งหลัง ในปี ค.ศ. 1738 ในสไตล์บาร็อค โดยการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบฝรั่งเศสและอิตา เลียน ชมความยิ่งใหญ่ภายในวังซึ่งประกอบด้วยห้องต่าง ๆ มากมายถึง 2,830 ห้อง ภายในตกแต่งอย่าง วิจิตรตระการตา ด้วยภาพเขียนสีบนเพดาน โคมไฟแก้วเจียรไน เสาหินอ่อน และประดับประดาทั่ววังด้วย งานศิลปะมากมาย ซึ่งนอกจากจะมีการตกแต่งอย่างงดงามแล้ว ยังเป็นที่เก็บภาพเขียนชิ้นสําคัญ ที่วาดโดย ศิลปินในยุคนั้น รวมทั้งสิ่งของมีค่าต่างๆ อาทิ พัดโบราณ, นาฬิกา , หนังสือ, เครื่องใช้, อาวุธ ฯลฯ แล้วชม อุทยานหลวงที่มีการเปลี่ยนพันธุ์ไม้ทุกฤดูกาลดอกไม้งดงามตลอดปี
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนําท่านเดินทางสู่ เมืองคอร์โดบาร์(CORDOBA) (410 กม.) เมืองในระบบกาหลิบที่มีความเจริญ รุ่งเรืองที่สุดของยุโรปในศตวรรษที่ 10 มีการสร้างมหาวิทยาลัย เน้นการเรียนรู้ด้านวรรณกรรมและ วิทยาศาสตร์ปรัชญาและการแพทย์เลาะเลียบผ่านผ่านเขตกําแพงเมืองเก่าที่ด้านหลังเป็นชุมชนชาวยิว ปราสาท อัลคาซาร์และสะพานแบบโรมัน ทอดตัวข้ามแม่นํ้ากวาดัลกีบีร์
20.30 น. รับประทานอาหารคํ่า ณ ภัตตาคารพื้นเมือง พร้อมชม ระบําฟลามิงโก้อันลือชื่อ ด้วยจังหวะกระทืบเท้ามัน ๆ ในสไตล์ของสเปน ศิลปะที่มีรูปแบบซับซ้อนทั้งเพลง ดนตรีและการเต้นรําซึ่งเป็นศิลปะประจําชาติและ สร้างชื่อของชาวสเปน
ที่พัก EUROSTARS PALACE HOTEL (5*****) หรือเทียบเท่า
*พักสองคืนไม่ต้องย้ายโรงแรม
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้น นําท่านเดินทางสู่ เมืองเซวีญ่า (SEVILLE) (150 กม.) เมืองศูนย์กลางทางการเงิน วัฒนธรรม และ ศิลปะของภาคใต้ของสเปน และยังเป็นเมืองหลวงของแคว้นปกครองตนเองอันดาลูเซียอีกด้วย เป็นเมือง ใหญ่อันดับ 4 ของสเปน และเคยเป็นเจ้าภาพจัดงานเอ็กซ์โปเมื่อปี ค.ศ. 1992 รวมทั้งเป็นเมืองหลวงของ แคว้นอันดาลูเซียด้วยซึ่งทั้งมวลนี้ล้วนทําให้เซวีญ่าเป็นเมืองมีเสน่ห์ที่สุดในสามเมืองใหญ่ตอนใต้เมืองที่เต็ม ไปด้วยเสน่ห์และเป็นเมืองอกแตกที่ตั้งอยู่ริมสองฝั่งแม่นํ้าGUADALQUIVIR มีท่าเรือที่มีความยาว 113 กม. จากส่วนของทะเลเข้ามา นําท่านชมภายนอกมหาวิหารแห่งเมืองเซวีญ่า (CATHERDRAL) ที่มีความสําคัญมากแห่งหนึ่งของสเปน เป็น 0มหาวิหารที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของโลก ถัดจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในกรุงโรม และมหาวิหาร เซนต์ปอล แห่งกรุงลอนดอน มหาวิหารแห่งนี้ เป็นอาคารสถาปัตยกรรม ที่สร้างด้วยศิลปะสไตล์โกธิค ที่ใหญ่ ที่สุดแห่งหนึ่ง สร้างตั้งแต่ ค.ศ. 1402-1506 ว่ากันว่าเป็นจุดประสงค์ ของคณะบาทหลวงในปี 1401 ที่จะ สร้างโบสถ์ให้ดี อย่างไม่มีใครเทียบเทียมได้ ภายในวิหาร มีสมบัติที่ประเมินค่ามิได้หลายอย่าง .... ชมหอคอยกิรัลดา ซึ่งเป็นตึกทรงผอมรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าสูง 93 เมตร ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมือง ชม พลาซ่าเอสปัญญ่า แห่งเซวีญ่าที่สวยงามยิ่งใหญ่อลังการด้วยตึกรูปโค้ง ครึ่งวงกลม ได้ชื่อว่าเป็นจัตุรัสที่สวย ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป เคยใช้เป็นสถานที่จัดงาน เอ็กซ์โปปี 1929 ของกลุ่มประเทศที่พูดภาษาสเปน และผ่านชมหอคอยทองคํา TORREDEL ORO (GOLDEN TOWER) ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 700 ปี
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นําท่านเดินทางกลับสู่ เมืองคอร์โดบาร์(CORDOBA) (150 กม.) แล้วนําท่านชมสุเหร่าเมซกีต้า สุเหร่าที่มี ขนาดใหญ่ของบรรดากาหลิบแห่งอูมัยยาด หากจะเปรียบเทียบความใหญ่โต คงจะไม่สร้างความประหลาดใจ แต่ ณ ที่แห่งนี้คือบทสรุปของการปลูกฝังคริสต์ศาสนา ลงบนอาณาเขตอันยิ่งใหญ่ของมุสลิมเดิม ซึ่งท่านจะ ได้เห็นศิลปะการสร้างโบสถ์ของชาวคริสต์อันยิ่งใหญ่ และศิลปะหลายแบบถูกบรรจงเติมแต่งให้สมบูรณ์จึง เป็นสถาปัตยกรรมที่เปรียบเป็นความหฤหรรษ์อย่างลึกซึ้งแห่งงานศิลปะ และความเจริญรุ่งเรืองทางศาสนา แต่ในขณะเดียวกันศิลปะแบบมุสลิมซึ่งก็คือมีห์รับซึ่งถือเป็นสุดยอดสถาปัตยกรรมชิ้นเอกบนกระเบื้อง เซรามิคของศิลปินชาวมัวร์แท้ ๆ ได้รับการอนุรักษ์เก็บรักษาให้ทรงคุณค่าความงามจนแทบจะหาชมไม่ได้อีก
คํ่า รับประทานอาหารคํ่า ณ ภัตตาคาร
ที่พัก EUROSTARS PALACE HOTEL (5*****) หรือเทียบเท่า
* พักสองคืนไม่ต้องย้ายโรงแรม
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนําท่านเดินทางสู่ กรุงลิสบอน (LISBON) เมืองหลวงเก่าแก่มีประวัติยาวนานกว่า 800 ปี ของประเทศ โปรตุเกส เมืองที่ได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ตั้งอยู่ในทวีปยุโรปตอนใต้บน คาบสมุทรไอบีเรีย มีแม่นํ้าเตโย (TEJO) ที่ไหลผ่านใจกลางเมืองลิสบอน เป็นแม่นํ้าที่กว้างใหญ่ไพศาลราว กับทะเล ….ระหว่างทางทางผ่าน เมืองบาดาจอซ (BADAJOZ) (270 กม.) เมืองชายแดนทางตะวันตกของสเปน
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
ออกเดินทางต่อสู่ กรุงลิสบอน (LISBON) (240 กม.) เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศโปรตุเกส เมืองลิสบอนเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทิศตะวันตก ริมฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติคของคาบสมุทรไอบีเรีย…
คํ่า รับประทานอาหารคํ่า ณ ภัตตาคาร
ที่พัก SHERATON LISBOA HOTEL & SPA (5*****) หรือเทียบเท่า
*พักสามคืนไม่ต้องย้ายโรงแรม
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นําท่านเดินทางสู่ เคปเดอโรกา (CAPO DA ROCCA) (50 กม.) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสุดแผ่นดินทางตะวันตกของ ยุโรป โดยมีหน้าผาและประภาคารริมมหาสมุทรแอตแลนติคเป็นแลนด์มาร์ค ให้ท่านได้เก็ยภาพความประทํา ใจหรือท่านใดสนใจสามารถเลือกซื้อใบประกาศนียบัตร ว่าได้มาเยือน ณ ที่แห่งนี้แล้ว
จากนั้นออกเดินทางสู่ เมืองซินทรา (SINTRA) (20 กม.) เมืองตากอากาศยอดนิยมของนักท่องเที่ยว เป็น ที่ตั้งของพระราชวังที่สวยงามที่ได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลก (UNESCO) ความร่ม รื่นของเขตอุทยานเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจในวันหยุดของชาวเมืองเป็นอีกเมืองที่มีสถาปัตยกรรมที่ค่อนข้างมี ความโดดเด่นของแคว้นแกรนด์ลิสบัว ประเทศโปรตุเกส
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นําท่านเข้าชมพีน่าพาเลซ (PENA NATIONAL PALACE) พระราชวังที่ตั้งอยู่บนเนินเขาเหนือเมืองซินทรา โดยพระราชวังแห่งนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของประเทศโปรตุเกส ปัจจุบันพระราชวังแห่งนี้ได้ กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในโปรตุเกส โดยในอดีตพระราชวังถูกใช้เป็นที่ประทับ ของกษัตริย์โปรตุเกสมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 14 ภายในถูกตกแต่งประดับประดาอย่างวิจิตรงดงาม โดยเฉพาะพื้นกระเบื้องที่ว่ากันว่าสวยงามที่สุดในโปรตุเกส ส่วนใกล้ๆกับพระราชวังจะเป็นพีน่าพาร์ค (PENA PARK) สวนป่าขนาดใหญ่ ที่มีการจัดแต่งด้วยต้นไม้หลากหลายชนิด …อิสระเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย
นําท่านเดินทางกลับสู่ กรุงลิสบอน (LISBON) (40 กม.)
คํ่า รับประทานอาหารคํ่า ณ ภัตตาคาร
ที่พัก SHERATON LISBOA HOTEL & SPA (5*****) หรือเทียบเท่า
* พักสามคืนไม่ต้องย้ายโรงแรม
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นําท่านชม กรุงลิสบอน นครเก่าแก่นครหนึ่งในทวีปยุโรป ทั้งยังเป็นเมืองท่าที่สําคัญ และเป็นศูนย์กลาง ทาง การเมือง การค้า อุตสาหกรรม พร้อมทั้งยังเป็นอุทยาน นครที่เขียวชอุ่มร่มรื่น ชมทัศนียภาพของแม่นํ้าเตโย (TEJO) ที่ไหลผ่านใจกลางเมืองลิสบอน เป็นแม่นํ้าที่กว้างใหญ่ไพศาลราวกับทะเล และยิ่งกว่านั้นโปรตุเกส ถูกโอบล้อมด้วยชายหาดยาวกว่า 170 กม. ของผืนมหาสมุทรแอตแลนติก
ชมบริเวณเมืองเก่าลิสบอน “โอลด์ ซิตี้” และจัตุรัสการค้า สร้างขึ้นในสมัยมาร์ควิส เดอ ปอมแปล เป็นนายกรัฐมนตรี ชมสะพานแขวนที่ยาวที่สุดในยุโรป ซึ่งสะพานนี้มีชื่อว่า PONTE 25 APRIL (ซึ่งเมื่อวันที่ 25 APRIL ปี 1974 ได้เกิดการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองมาสู่ระบอบประชาธิปไตย)
ชมหอคอยบีเล็ม (BELEM TOWER) โบราณสถานที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 สร้างตามแบบสถาปัตยกรรม เก่า สมัยที่นครลิสบอนอยู่ภายใต้การยึดครองของชนชาติมัวร์0 เดิมสร้างไว้กลางนํ้าเพื่อใช้เป็นป้อมปราการ และประภาคารรวมทั้งเป็นคุกอีกด้วยอดีตเคยเป็นป้อมรักษาการณ์ดูแลการเดินเรือเข้าออกและเป็นจุดเริ่มต้น ของการเดินเรือออกไปสํารวจ และค้นพบโลกของวาสโก ดากามา และนักเดินเรือชาวโปรตุเกส เป็นอีก ตัวอย่างหนึ่งของสถาปัตยกรรมมานูเอลไลน์ที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นําท่าน ชมวิหารเจโรนิโมส (JERONIMO MONASTERY) วิหารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 16 โดย กษัตริย์ แมนนูเอลที่ 1 องค์สําคัญที่สุดที่สร้างชื่อเสียงให้โปรตุเกส ผู้ซึ่งประสบความสําเร็จจากการส่งนัก เดินเรือล่องมหาสมุทร เพื่อค้นพบแผ่นดินใหม่ในโลก และมีความสําคัญทางประวัติศาสตร์โดยเฉพาะเป็นที่ ฝังศพของวาสโกดากามา (VASCO DA GAMA) ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่วาสโกดากามา นักเดินเรือชื่อ ดัง ที่ได้เดินทางสู่อินเดียเป็นผลสําเร็จ ในปี ค.ศ.1498 จัดเป็นผลงานอันเยี่ยมยอดของงานสถาปัตยกรรมที่ เรียกกันว่า มานูเอลไลน์ (MANUELINE) ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 70 ปี จึงเสร็จสมบูรณ์และได้รับการรับรอง จากองค์การยูเนสโกว่าเป็นมรดกโลก วิหารแห่งนี้มีความสวยงามด้วยศิลปะแบบโกธิค ซึ่งจะมีความแปลก กว่าที่อื่น คือ มีความผสมผสานแบบมานูเอลรึซึม
นําท่านบันทึกภาพกับอนุสาวรีย์ดิสคัฟเวอรี่ (MONUMENT TO THE DISCOVERIES) ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1960 เพื่อฉลองการครบ 500 ปี แห่งการสิ้นพระชนม์ของเจ้าชายเฮนรี่ เดอะเนวิเกเตอร์
คํ่า รับประทานอาหารคํ่า ณ ภัตตาคาร
ที่พัก SHERATON LISBOA HOTEL & SPA (5*****) หรือเทียบเท่า
*พักสามคืนไม่ต้องย้ายโรงแรม
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
10:00 น. นําท่านเดินทางสู่ สนามบิน เพื่อเดินทางสู่ ประเทศไทย
13:35 น. ออกเดินทางกลับสู่ ประเทศไทย โดย สายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK192/EK376
แวะเปลี่ยนเครื่องที่เมืองดูไบ
12:55 น.เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยความสวัสดิภาพ
1. ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ (ECONOMY CLASS) ที่ระบุวันเดินทางไปกลับพร้อมกรุ๊ปเท่านั้น
2. ค่ารถโค้ชปรับอากาศนําเที่ยวตามรายการ
3. ค่าห้องพักในโรงแรมที่ระบุตามรายการหรือเทียบเท่า
4. ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการ
5. ค่าอาหารตามรายการ
6. ค่าประกันภัยการเดินทางรายบุคคล
7. ค่ามัคคุเทศก์ (ไกด์คนไทย) ของบริษัทฯ ดูแลตลอดการเดินทาง
8. ค่าวีซ่าเชงเก้น
9. ค่าทิปทุกๆอย่างรวมหมด ลูกค้าไม่ต้องจ่ายใดๆทั้งสิ้น
1. ค่าธรรมเนียมจัดทําหนังสือเดินทาง , แจ้งเข้าแจ้งออกสําหรับผู้ที่ไม่ได้ถือหนังสือเดินทางของไทย
2. ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิเช่น ค่าเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษ, ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทาง, ค่านํ้าหนักเกิน จากทางสายการบินกําหนดเกินกว่า 30 กก.และมากกว่า 1 ชิ้น, ค่ารักษาพยาบาล กรณีเกิดการเจ็บป่วยจากโรคประจําตัว, ค่า กระเป๋าเดินทางหรือของมีค่าที่สูญหายในระหว่างการเดินทาง เป็นต้น
3. ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% เฉพาะค่าบริการ ในกรณีที่ต้องการใบกํากับภาษี
4. ค่าธรรมเนียมนํ้ามันและภาษีสนามบิน ในกรณีที่สายการบินมีการปรับขึ้นราคา
5. ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ เช่น ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, มินิบาร์และทีวีช่องพิเศษ ฯลฯค่าอาหารและเครื่องดื่มสั่งพิเศษค่าบริการ พิเศษต่างๆ
- บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ ในการที่จะไม่รับผิดชอบต่อค่าชดเชยความเสียหาย อันเกิดจากเหตุสุดวิสัยที่ทาง บริษัทฯ ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น การนัด หยุดงาน, จลาจล, การล่าช้าหรือยกเลิกของเที่ยวบิน รวมถึงกรณีที่กองตรวจคนเข้าเมืองไม่อนุญาตให้เดินทางออกหรือกองตรวจคนเข้าเมืองของ แต่ละประเทศไม่อนุญาตให้เข้าเมือง รวมทั้งในกรณีที่ท่านจะใช้หนังสือเดินทางราชการ (เล่มสีนํ้าเงิน) เดินทางหากท่านถูกปฏิเสธการเดินทางเข้า หรือออกนอกประเทศใดประเทศหนึ่ง
- บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ ในการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมรายการท่องเที่ยว โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
- บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ ในการเปลี่ยนแปลงอัตราค่าบริการ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
- เมื่อท่านทําการซื้อโปรแกรมทัวร์ ทางบริษัทฯ จะถือว่าท่านรับทราบและยอมรับเงื่อนไขของหมายเหตุทุกข้อแล้ว ในกรณีที่ลูกค้าต้องออกตั๋ว โดยสารภายในประเทศ ….กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ก่อนทุกครั้ง มิฉะนั้นทางบริษัทฯจะไม่ขอรับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น…โปรแกรม และรายละเอียดของการเดินทางอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะอากาศ และเหตุสุดวิสัยต่าง ๆ ที่ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าโดยทางบริษัทฯ จะคํานึงถึงผลประโยชน์และความปลอดภัยของผู้ร่วมเดินทางเป็น สําคัญ….
- หลังจากที่มีการจองทัวร์และได้ชําระค่ามัดจําทัวร์หรือทั้งหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการชําระผ่านตัวแทนของบริษัทหรือชําระโดยตรงกับทางบริษัท ทางบริษัทจะขอถือว่าท่านรับทราบและยอมรับในเงือนไขต่างๆของบริษัท ที่ได้ระบุไว้ทั้งหมด
- นั่งที่ LONG LEG โดยปกติอยู่บริเวณทางออกประตูฉุกเฉิน และผู้ที่จะนั่งต้องมีคุณสมบัติตรงตามที่สายการบินกําหนด เช่น ต้องเป็นผู้ที่มี ร่างกายแข็งแรง และช่วยเหลือผู้อื่นได้อย่างรวดเร็วในกรณีที่เครื่องบินมีปัญหา เช่น สามารถเปิดประตูฉุกเฉินได้ (นํ้าหนักประมาณ 20 กิโลกรัม) ไม่ใช่ผู้ที่มีปัญหาทางด้านสุขภาพและร่างกายและอํานาจในการให้ที่นั่ง LONG LEG ขึ้นอยู่กับทางเจ้าหน้าที่เช็คอินสายการบิน ตอนเวลาที่เช็คอิน เท่านั้น
481/645 ถนน จรัญสนิทวงศ์ แขวง บางขุนศรี เขต บางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร 10700